หมอสามัญประจำบ้าน

สวัสดีคร้าบบบบบ บทความนี้คงเป็นบทความสุดท้ายของช่วงนี้ หลังจากนี้ผมคงต้องหายไปยาว ๆ สักช่วงหนึ่ง เพื่อไปทำภารกิจบางอย่าง ซึ่งมีความสำคัญมาก เอาเป็นว่า หลังวันแม่นี้ คงกลับมาเขียนอีกรอบ แล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ  วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจ ขอเขียนเรื่องลามกซะหน่อย 5555 พอดีว่ามีเคสเด็กชายอายุ 3 ปี คุณแม่กังวลเรื่องของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่เปิดออก ( หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Phimosis ) จึงจะมาขอใบส่งตัวไปทำ Circumcision หรือการขริบที่รพ.ศูนย์ แต่เราก็ได้แนะนำให้คุณแม่ลองรูดก่อน เพราะส่วนใหญ่แล้วหนังหุ้มปลายของเด็กจะเปิดเอง ประมาณ 95% จะเปิดก่อนอายุ 5 ขวบ เพราะฉะนั้นเรายังรอได้  แล้วการทำขริบ มันมีประโยชน์จริงหรือไม่ ?  ตามปกติแล้วส่วนหัวของปลายองคชาตเองจะเป็นบริเวณที่ไวกับความรู้สึกมาก และจะมีหนังหุ้มปลายปกปิดอยู่ หนังส่วนนี้เป็นส่วนเดียวกับหนังที่คลุมส่วนโคนและลำขององคชาต เมื่อคลุมตลอดส่วนหัวขององคชาตแล้วจะม้วนเข้าใน ไปสิ้นสุดที่ส่วนคอองคชาต ทำให้หนังส่วนนี้สามารถรูดขึ้นลงได้ เพื่อทำความสะอาดส่วนหัวและส่วนคอที่อยู่ข้างในได้ แต่กรณีที่รูเปิดของหนังหุ้มปลายซึ่งอยู่ปลายสุดขององคชาตมีขนาดเล็

สวัสดีครับ ในที่สุดก็กลับมาเขียน หลังจากที่มีเรื่องวุ่นวายใจ จนทำให้เกิดอารมณ์ไม่ค่อยอยากเขียนไปพักใหญ่ แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับ ^^  นั่งคิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไร พอดีว่าในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา พบเจอกรณีเคส Suicide หรือ พยายามฆ่าตัวตายหลายเคส ไม่ว่าจะเป็น ผูกคอ หรือ กินฟูราดาล ( ยาฆ่าแมลงกลุ่ม Carbamate ) เอาเคสไปคุยกับเพื่อนต่างรพ.ก็พบมาก โดยส่วนใหญ่กลุ่มผู้ป่วยที่คิดสั้นค่าตัวตาย มักจะมีภาวะซึมเศร้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  แน่นอนว่าทุกรพ. จะมีการคัดกรองกลุ่มผู้ป่วยที่มีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาภาวะซึมเศร้า โดยใช้คำถาม 2Q9Q8Q ซึ่งคนที่ถามประเมินมักจะเป็นพี่พยาบาลซะเป็นส่วนใหญ่ แต่กลุ่มแพทย์มักจะไม่รู้และไม่ทราบความหมายของมัน ทำให้เราพลาดการรักษาแกผู้ป่วยในบางราย และอาจจะทำให้เกิดปัญหาการฆ่าตัวตายตามมาในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นแพทย์ไม่มีสิทธิอ้างว่าไม่รู้ หรือไม่ทราบความหมายของการประเมินครับ 2Q เป็นการประเมินเริ่มแรกไว้สำหรับค้นหาผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า มีคำถามดังนี้  1.2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีความรู้สึกหดหู่ เศร้า ท้อแท้ หรือ สิ้นหวัง 2.2สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ รู้สึกเบื่

อยากจะบอกว่า Starbucks ไม่ช่วยอะไรฉันเลย ง่วงแสนง่วง หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดเวลา T^T ช่วงนี้ยิ่งรู้สึกแย่บ่อย ๆ เรื่องงาน เรื่องคนไข้ ดันมีปัญหาไปซะหมด ( ล่าสุด คนไข้ diarrhea มา นอนอยู่ ER กลายเป็น STEMI อีก ) เลยกะจะกลับบ้านมาเปลี่ยนบรรยากาศหน่อย ก็นอนทั้งวัน เซ็งตัวเองจริง ๆ  มีอยู่วันหนึ่ง มารดาเด็กน้อยอายุ 1 ขวบ มาขอฉีดวัคซีนแก้ท้องเสีย ? คุณจะทำอย่างไร  จริง ๆ แล้ววัคซีนนี้ ก็คือ Rotavirus vaccine นั่นหล่ะครับ ซึ่งเป็นในรูปแบบ oral form หยอดทางปาก คล้าย OPV ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 2 แบบ ซึ่งเป็น live vaccine ทั้งคู่ คือ Rotarix (Monovalent) และ Rotateq (Pentavalent)  ก่อนที่เราจะอธิบายว่า 2 วัคซีนนี้ แตกต่างกันอย่างไร เราต้องเข้าใจตัวไวรัสก่อน  rotavirus เอง เป็น RNA virus ซึ่งจะมีเปลือกหุ้มอยู่หลายชั้น ชั้นนอกสุด คือ outer capsid จะมี protein อยู่ 2 ชนิด คือ G protein กับ P protein ซึ่งตัวโปรตีน 2 ตัวนี้เองจะกระตุ้นให้เกิด Neutralizing Antibody สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่ง Rotavirus ที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงรุนแรง คือ Serotype G1,G2,G3,G4,G9 และส่วนใหญ่ G2 มักจะพบร่วมกับP4 ตัว G1,G3,G4,G9

กลับมาต่อจากคราวก่อนนะครับ จะเห็นว่าเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างคราวก่อน เกิดขึ้นจริงและบ่อย ซึ่งแพทย์เอง ถ้าไม่มีใครให้ประวัติได้ ก็อาจจะวินิจฉัยได้ช้า และอาจให้การรักษาได้ช้าด้วย ซึ่งอย่างที่พวกเราทราบกันดี ผู้ป่วยแบบนี้ เพียงแค่เราให้ Antivenom ที่เหมาะสม ผู้ป่วยก็จะดีขึ้นแบบ dramatic เลย คือใส่ tube อยู่ ก็จะตื่นดีสามารถ off tube ได้ทันที  แน่นอนว่าก่อนที่เราจะสามารถให้การรักษาที่ถูกต้องนั้น เราต้องเข้าใจเรื่องพิษของงูด้วย ซึ่งมีหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภท 1.งูที่มีพิษต่อระบบประสาท กลุ่มพิษพวกนี้ จะจับกับ Acetylcholine receptor ที่บริเวณ Neuromuscular junction ทำให้ Acetylcholine ไม่สามารถจับกับ receptor ได้ จึงมีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง หายใจเองไม่ได้ งูกลุ่มนี้ เช่น งูเห่า งูจงอาง งูทับสมิงคลา งูสามเหลี่ยม 2.งูที่มีพิษต่อระบบเลือด เช่น งูแมวเซา โดยพิษของงูแมวเซานั้น จะไปกระตุ้น factor X,V ในกระบวนการห้ามเลือด ทำให้เกิด microthrombi อุดตัน เกิดเป็น DIC ซึ่งจะทำให้ factor ในขบวนการห้ามเลือดลดลง มีผลทำให้เลือดออกง่าย นอกจากนั้นแล้ว พิษของงูแมวเซาเอง ก็จะมีผลต่อไตด้วย

สวัสดีครับ วันนี้เพิ่งลงเวรมาครับ เหนื่อยมาก วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าจนถึงเช้าอีกวันนึง แต่พอลงเวรก็ยังไม่ง่วง แปลกอ่ะ สงสัยติดนิสัยนอนดึก ไม่มีอะไรทำ เลยมาเขียนบล็อกแก้เบื่อ 555  ล่าสุดฟังเพื่อนที่โรงพยาบาลเล่าเคสผู้ป่วยห้องฉุกเฉินให้ฟัง แล้วรู้สึกว่าเคสแบบนี้เราก็เคยเจอ ทั้งที่คิดว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นบ่อย แต่มันเจอบ่อยจริง ๆ เคสที่เพื่อนผมเจอ เป็นเคสเด็กอายุ 6 ขวบ ขณะนั่งอยู่ เด็กมีอาการหายใจหอบเหนื่อยอย่างฉับพลัน เมื่อมาถึงรพ. เพื่อนผมฟังปอดเป็นคล้ายเสียง crepitation ในปอดสองข้าง อาการเป็นแบบฉับพลันทันที ไม่เคยหอบเหนื่อยหรือมีไข้มาก่อน ปกติเป็นเด็กแข็งแรงดี เนื่องจากมารดาเด็กไม่สามารถให้ประวัติได้ชัดเจน เพราะมัวแต่ตกใจสภาพของบุตร เพื่อนผมตอนแรกสงสัย Anaphylaxis จึงให้ adrenaline ,CPM ,hydrocortisone ไป ปรากฏว่าเด็กค่อย ๆ ซึมอย่างรวดเร็ว เพื่อนผมก็เกิดสงสัย snake bite ขึ้นมา ( สุดยอดอ่ะ !!! คิดได้ไงไม่รู้ ) เลยพยายามหาบาดแผล พบรอยเขี้ยว 2 รอยหลังเท้าขวา เด็กเลยได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจและ Antivenom เมื่อไปถึงรพ.ศูนย์ เด็กก็ตื่น รู้สึกตัวดี ผมก็มานั่งคิด ว่าไอเราก็เคยเจอนะ แต่ตอนนั้นผมไม่ไ

ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีแรงอ่านหนังสือเลย ที่ตรังก็ฝนตกตลอดเวลา บรรยากาศน่านอนสุด ๆ 555 วันนี้เลยมีคำถามเป็น Spot Diag ให้เดาเล่น ๆ กัน อิอิ Case ชาย อายุ 56 ปี U/D DM type 2 มารพ.ด้วยเรื่องอาการอ่อนเพลีย เมื่ออาการดีขึ้น จะให้คนไข้กลับบ้าน คนไข้ก็ถามผมทันทีว่า ที่หลังเขามีผื่นแดง ๆ อยู่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร กดแล้วเป็นลักษณะหนังแข็ง ๆ ไม่คัน ไม่เจ็บ เป็นดังรูป  Spot Diag ? Scleredema จริง ๆ ผมจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เหมือนเคยเห็นว่าผื่นนี้มันน่าเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานของผู้ป่วย จึงเปิดหนังสือดู ก็เจอตัวโรคนี้ครับ  เป็นผื่นที่พบไม่บ่อย มักพบในเพศชายมากกว่าหญิง พบเป็นผิวหนังนูนแข็งที่แผ่นหลัง ลำคอ และหัวไหล่ทั้ง 2ข้าง สมมาตรกัน โดยมากมักไม่มีอาการอะไร  การรักษามักไม่ได้ผล และการคุมน้ำตาลก็ไม่ได้ช่วยให้ภาวะผิวหนังที่แข็งดีขึ้น ใครตอบได้ ขอรับการคารวะจากผมไปเลยครับ