Restraint - หมอทำร้ายหนู

สวัสดีครับ เกือบจะหมดเดือน แต่สมองเริ่มตีบตัน 555 คิดไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร ที่ดูน่าสนใจสำหรับเราและคนอื่น รวมถึงไม่เครียดหรือน่าเบื่อจนเกินไป (ดูยากนะ) เลยหยิบเอาเรื่องนี้มาเขียนด้วย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ ^^

Restraint หรือการทำให้คนไข้สงบ อยู่นิ่ง และไม่วุ่นวาย ถ้าคนที่อยู่อายุรกรรมคงคุ้นชินกันดี แต่สำหรับกุมารแพทย์ ซึ่งต้องดูแลคนไข้เด็ก ที่มักจะต้องมุ้งมิ้งกับเด็ก ๆ บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นเราก็มักจะต้องรักษาภาพลักษณ์หมอผู้ใจดีอยู่เสมอ แม้กับเด็กที่วุ่นวายก็ตาม

ตามมาตรฐานของ JCAHO การ Restraint มีหลักการดังนี้
  1. ใช้การผูกยึดเมื่อจำเป็นเท่านั้น หรือ เมื่อไม่มีวิธีอื่นที่ใช้ได้ผลแล้ว
  2. ใช้วิธีการผูกยึดที่จำกัดผู้ป่วยน้อยที่สุด
  3. ยุติการผูกยึดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
  4. ให้ความสำคัญกับการป้องกัน และลดการผูกยึดในรพ.
  5. คำนึงถึงความปลอดภัย สุขสบาย ศักดิ์ศรี และความลับของผู้ป่วยอยู่เสมอ
กุมารแพทย์ เรามีวิธีง่าย ๆ ในการทำให้เด็กสงบดูก่อน
  • เมื่อผู้ป่วยมีภาวะวุ่ยวาย ควรจะเข้าไปพูดคุยกับคนไข้ หาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่ทำให้วุ่นวายคืออะไร แล้วเสนอทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ป่วย
  • จัดให้ผู้ป่วยไปอยู่ในมุมสงบ และมีสิ่งเร้าน้อย เช่นไม่มีคนพลุกพล่านวุ่นวาย ไม่มีเสียงดัง
  • เก็บวัสดุหรืออุปกรณ์ที่ผู้ป่วยสามารถนำมาใช้ในการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
  • สร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้ป่วย ไม่มีการพูดจาขมขู่ผู้ป่วย ระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยโกรธ
  • ถ้าผู้ป่วยอยากให้ผู้ปกครองอยู่ด้วย ให้ผู้ปกครองอยู่ด้วยได้ ผู้ป่วยจะได้สงบ
  • เบี่ยงเบนความสนใจ หรือหากิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ผู้ป่วยได้ทำเพื่อคลายกังวล
  • ถ้าผู้ป่วยมีภาวะสับสน ให้ Re-Orientation ทุกครั้ง
  • ถ้าผู้ป่วยมีปัญหาวุ่นวายสับสนอยู่แล้ว อาจวางแผนใช้ยาเพื่อทำให้ผู้ป่วยสงบได้ โดยยาที่กุมารแพทย์ใช้เป็นตัวช่วยจะมี
    • Benzodiazepine เช่น Lorazepam 0.5-2 mg/dose oral หรือ  Midazolam 0.05-0.2mg/kg/dose iv
    • Antipsychotic agents เช่น Haloperidol ในเด็กเล็กจะเริ่ม 0.5-2 mg/dose oral ส่วนในเด็กโต 2-5mg/dose oral หรือ Chlorpromazine 0.5-1mg/kg/dose oral หรือปรับลดdoseเป็นครึ่งหนึ่งสำหรับ im
  • สุดท้ายแล้วถ้าคิดว่าเอาไม่อยู่จริง ๆ หรือมีข้อห้ามในการใช้ chemical restraint ค่อยเลือกเป็น Physical restraint นะครับ
*** ย้ำตรงจุดนี้นะครับ เราจะมีการ Order Restraint คนไข้ Continue นะครับ อย่างน้อยจะต้องมีการ Reorderทุก 24 ชั่วโมง และ Reassessment ทุก 8 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อยนะครับ ยิ่งถ้าเป็นคนไข้เด็ก อาจจะต้องมา Reassessment ถี่กว่าของผู้ใหญ่นะครับ และถ้าอาการผู้ป่วยสงบในระดับหนึ่ง ให้ยุติการ Restraint ทันทีนะครับ

สิ่งที่แพทย์ต้องเข้าใจคือ ผู้ป่วยคือผู้ป่วย ไม่ใช่นักโทษ

ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจากเอกสารการเรียนรู้ของอาจารย์จริยา ทะรักษาด้วยครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.equipforequality.org/issues/misuse-of-restraint-seclusion/



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Denver II Part 1

I message VS U message

LDL-C = Total Cholesterol - HDL-C - TG/5 ถูกต้องหรือไม่ ?