Antibiotic smart use ตอนที่ 1

-

สวัสดีเช่นเคย วันนี้ได้เวลาดีก่อนเข้านอนมาเขียนบล็อกสักหน่อยครับ วันนี้มาเป็นโจทย์เลย ไม่ยากมาก เจอในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ แต่พวกเรามักจะพลาดกัน จนมีปัญหาตามมา ยังไงวันนี้เรามาเรียนรู้พร้อม ๆ กันนะครับ

8-year-old thai boy 
CC: Bitten by a cat 1 day PTA 

1day PTA, he was bitten by a cat at his Rt. hand. His wound was thoroughly cleansed and the he received Rabies & Tetanus prophylaxis and antibiotic

Which is your treatment of choice ?

A. Dicloxacillin
B. Trimethoprim-Sulfamethoxazole
C. Azithromycin
D. Cefdinir
E. Amoxicillin-clavulanate

เรารู้ว่ามันไม่ยาก แต่อยากรู้ว่าในชีวิตจริงพวกเราให้อะไรกันบ้าง แล้วเด๋วพรุ่งนี้ผมจะมาเฉลย แล้ว progress อาการคนไข้ให้นะครับ 

ปล. วันนี้ดู Cinderella มา สนุกดี เชียร์ให้ไปดูครับ

ปล2. มันเกี่ยวไรกันฟระ 555

ขอบคุณรูปจาก : http://m1.wyanokecdn.com/d37c30ff8084d622208a25bac9939285.jpg


กลับมาเฉลยแล้ว มาดึกหน่อย แต่ดีกว่าไม่มานะครับ

ก่อนที่จะเฉลยผมขอ Progress คนไข้แบบย่อ ๆ ก่อนนะครับ

The attending physician gave him 7-day course of dicloxacillin ( 10mg/kg/day ) But 2 days later, his wound turned swelling and intolerably painful. Foul-smelling purulent drainage from the cat bitten lesion was revealed from physical examination.

Dx : Cat bite wound infection

Treatment : Admit , IV cefotaxime+clindamycin , consult surgery for I&D

เห็นไหมครับว่า กับการแค่เลือก ATB ในแผลสัตว์กัด มีความสำคัญแค่ไหน 

ทุกครั้งที่ผมสอนน้อง ๆ นศพ.หรือ Extern เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเลือก ATB ผมก็มักจะพูดเสมอว่า เราต้องคิดหรือสงสัยก่อนว่า คนไข้เป็นโรคอะไร และ เชื้อโรคอะไรที่เป็น Common pathogen ถ้าเรารู้เราก็จะได้เลือก ATB ได้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น

คำตอบ : E นะครับ 


โดยจะให้ได้ว่า Common pathogen ในปากหมาแมว เชื้อหลักจะเป็น Pasteurella species , Anaerobes และ เชื้อที่อยู่ตามผิวหนังของคน เช่น Staphylococcus aureus, Streptococci ซึ่ง ATB หลัก ควรจะเป็น Amoxy-Clavulanate จึงจะครอบคลุมเชื้อทั้งหมดอย่างที่กล่าวมา แต่ถ้าผู้ป่วยแพ้ยากลุ่ม Penicillin อาจเลือกเป็นกลุ่ม Bactrim + Clindamycin ก็ยังได้อยู่ครับ 

ส่วนถ้าคนไข้ติดเชื้อแล้ว มี Sign inflammation ชัดเจน อาจต้อง Admit ให้ IV ATB เป็น 3rd Gen Cephalosprin + Clindamycin 

ส่วนระยะเวลาที่ให้นั้น ถ้าเป็น Prophylaxis ให้เพียง 3-5 วันก็เพียงพอ แต่ถ้ามี Soft tissue infection อย่างน้อยก็ 7-10 วัน และสุดท้ายถ้าลุกลามถึงกระดูก ก็ต้องให้ ATB ยาวเป็น 3-4 สัปดาห์เลย 

*** ขอบคุณ ข้อมูลจาก Red Book 2012 ด้วยครับ ^^








ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Denver II Part 1

-
รูปภาพ
สวัสดีครับ เกือบจะครึ่งเดือนแล้ว ยังไม่มีบทความออกมาให้อ่านกันเลย อันนี้เลยตั้งใจเขียนขึ้นมาสำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจประเมินพัฒนาการเด็ก ซึ่งเครื่องมือในการประเมินพัฒนาการมีหลายแบบ แต่แบบหนึ่งที่เราใช้กันบ่อย คือ Denver II ซึ่งวันนี้ผมจะมาอธิบายวิธีการประเมินคร่าว ๆ กันนะครับ (อาจจะขอแบ่งออกเป็น 2 part) Denver II เป็นอุปกรณ์ หรือ เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจคัดกรองพัฒนาการเบื้องต้นของเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี แต่ไม่สามารถนำมาใช้ในการวินิจฉัยได้ว่าผู้ป่วยมีพัฒนาการช้า ซึ่งนั่นจะต้องอาศัยแบบทดสอบอย่างอื่นที่จำเพาะมากขึ้น หรือ การส่งตรวจประเมินสาเหตุอย่างอื่นเพิ่มเติม รวมถึงการทดสอบนี้ ก็ไม่ใช่การทดสอบ IQ หรือ ประเมินระดับเชาน์ปัญญาแต่อย่างใด ซึ่งการประเมิน Denver II นั้น สามารถประเมินพัฒนาการเบื่องต้นทั้ง 4 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น Personal-social , Fine motor , Language , Gross motor วันนี้เราจะมาลองทำความเข้าใจวิธีการตรวจกัน   1. เราต้องคำนวณหา Corrected Age ในผู้ป่วยรายนี้ก่อน โดยถ้าเด็กเกิดก่อน GA 38 wk ต้อง Correct ให้ได้ 40 wk ซึ่งมีวิธีการคำนวณง่าย ๆ ตามตัวอย
อ่านเพิ่มเติม

I message VS U message

-
รูปภาพ
ในบทความที่ผ่านมา ผมมักจะเขียนถึง I message อยู่บ่อยครั้ง ว่าเป็นเทคนิคการสื่อสารที่ดี โดยเฉพาะกับเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากคำพูดจะน่าฟังมากขึ้น ส่งผลต่อความรู้สึกเชิงบวกมากกว่า อยากที่จะปฏิบัติตามมากกว่า I message คือ การบอกถึงความต้องการหรือความรู้สึกของผู้พูดแทนการใช้อารมณ์หรือคำสั่ง ต่างจาก U message ( เป็นประโยคที่ในชีวิตประจำวัน ได้ยินอยู่ตลอดเวลา ) คือ ประโยคที่บอกว่าอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรผิด หรือมีพฤติกรรมอะไรที่ไม่ดี ฟังแล้วเป็นการว่ากล่าวหรือสั่ง มากกว่าพูดเพื่อที่จะให้แก้ไข ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเชิงลบต่อผู้ที่ฟังประโยคนั้น เด็กจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า สูญเสียความมั่นใจ บางคนต่อต้านรุนแรง บางคนดื้อเงียบ   และไม่ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระยะยาว ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจ 2 ประโยคนี้ได้ แล้วลองพิจารณากันว่า แบบไหนน่าจะดีกว่ากัน “ วิน หายไปไหนมา แม่โทรหา ทำไมไม่รับสาย ไปทำอะไร ” --- U message วินได้ฟังประโยคนี้ น่าจะรู้สึกรำคาญ มากกว่าจะรับรู้ความเป็นห่วงของแม่ “ แม่เป็นห่วงวินมากนะ ที่ติดต่อวินไม่ได้ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ เกิด
อ่านเพิ่มเติม

LDL-C = Total Cholesterol - HDL-C - TG/5 ถูกต้องหรือไม่ ?

-
สวัสดีครับ ไม่ได้มาเขียนหลายวัน ไม่ได้ยุ่งอะไรมากมายหรอกครับ แต่กำลังคิดอยู่ว่า เราจะเขียนอะไรที่น่าสนใจดี พอดีว่าใน Facebook ของผู้เขียน มีเพื่อนเปิดประเด็นที่น่าสนใจขึ้นมาประเด็นหนึ่ง คือการคำนวณ Friederwald's formula เพื่อน ๆ น้อง ๆ อาจจะสงสัยว่า " มันคือการคำนวณอะไร ? " มันเป็นการคำนวณประมาณหาค่า LDL-Cholesterol (Low density lipoprotein) นั่นเอง LDL = Total Cholesterol - HDL (Hign density lipoprotein) - Triglyceride/5 โดยหัวข้อที่คุยกันนั้น เกิดจากการที่ทางรพ.ของเพื่อน น้ำยาที่ใช้ในการตรวจ HDL หมด ไม่สามารถตรวจได้ แต่มีผล LDL มาให้ เพื่อนเลยจะลองกลับสูตรหา HDL จากสูตรนี้แทน แต่ค่าที่ได้ออกมา ดูแปลกเกินกว่าที่ควรเป็น จริง ๆ แล้ว สูตรนี้ ระดับสากลเองไม่นิยมใช้กันแล้ว เนื่องจากความคลาดเคลื่อนค่อนข้างสูง และปัจจุบันเครื่องมือทางห้องปฏิบัติการก็สามารถหาค่า LDL-C ได้ถูกต้อง ซึ่งมีใช้กันอย่างแพร่หลายครับ สูตรนี้ เป็นสูตรที่คิดขึ้นมา เพื่อประมาณ LDL-C เท่านั้น ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจได้ ซึ่งถ้าเรามาทำความเข้าใจตามหลักความจริง จะพบว่า Total Cholesterol = Free-Ch
อ่านเพิ่มเติม