โอ้เจ้านกเขาคู จุ๊กจุ๊กกรู ( เหลือบมองลงต่ำ ขันไหมนั่น ) *_*

กลับมาเจอกันอีกครั้ง วันนี้ผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันที่เปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากแพทย์ เป็นคนที่มาใช้บริการทางการแพทย์แทน ( มาตรวจเลือดกะฉีดวัคซีนที่รพ.ศูนย์ ) ซึ่งทำให้เราเรียนรู้วิธีการเข้าถึงการรักษาของคนทั่วไป ความยากลำบากและการเสียเวลารอการตรวจ เลยอยากฝากเพื่อนแพทย์ทั้งหลายให้เอาใจผู้ป่วยมาใส่ใจเราดู รักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่นะครับ ^^

วันนี้เป็นคำถามคาใจของกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ถามผู้เขียนตอนตรวจ Clinic DM ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ เคยถูกถามกันบ้างอ่ะป่าว แล้วตอบคำถามของผู้ป่วยอย่างไร 

ผู้ป่วยชาย : คุณหมอครับ ผมมีปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขัน หมอพอที่จะมีทางแก้อะไรไหมครับ 

ผู้เขียน : ???

ปัญหาที่ผู้ป่วยเป็นคือ ED ( Erectile dysfunction

จริง ๆ เกือบ 200 ปีมาแล้ว ที่เราทราบว่าโรคเบาหวานมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย และพบร่วมในอัตราที่สูงมาก ประมาณ 40-50% และอัตราจะสูงขึ้นตามอายุ 

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศในคนที่เป็นโรคเบาหวาน อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท จากการตรวจ autonomic nerve หรือเส้นใยประสาทอัตโนมัติในท่อ Corpora cavernosa ซึ่งเป็นแกนขององคชาตของคนกลุ่มนี้ พบว่ามีความผิดปกติของโครงสร้างเส้นใยประสาท

อีกประการหนึ่ง ผู้ป่วยโรคเบาหวานบางคนยังมีการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด ทำให้ผนังของเส้นเลือดฝอยหนาตัวขึ้น ซึ่งการแข็งตัวขององคชาตนั้น จำเป็นต้องให้เลือดคั่ง ถ้าหลอดเลือดหนาตัว เลือดก็จะเข้าไปเลี้ยงองคชาตไม่ได้

หรือในบางครั้ง อาจจะไม่ใช่ผลโดยตรงจากตัวโรคเบาหวานก็ได้ แต่อาจจะเป็นจากภาวะความตึงเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้าจากการเจ็บป่วยของตนด้วย และปัญหาทางด้านจิตใจนี้ อาจก่อให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศตามมา

ส่วนเรื่องของการรักษานั้น เบื้องต้น เราต้องลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หยุดสูบบุหรี่และดื่มสุรา คุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ถ้ามีปัญหาทางด้านจิตใจ อาจจะต้องร่วมมือกับจิตแพทย์เพื่อทำ Psychotherapy 

ส่วนถ้าจำเป็นจะต้องใช้ยาช่วย ตัวผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจเรื่องของการเลือกยา รวมถึงผลข้างเคียง แต่ที่เคยพบที่วางขายกัน จะเป็นกลุ่ม sildenafil citrate ( viagra ) มันจะช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศมากขึ้น แต่ข้อควรระวังคือ ห้ามใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจที่ทานยา nitate เพราะจะมีปัญหาเรื่องความดันต่ำ และเป็นลมได้

อีกยาที่เจอบ่อยคือกลุ่ม Procomil ( alpha blocker ) แต่จะมีภาวะแทรกซ้อนเรื่องความดันโลหิตสูง ใจสั่น และปัสสาวะบ่อยได้

ส่วนคำตอบที่ผู้เขียนให้กับผู้ป่วยรายนี้ ก็เป็นคำแนะนำเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั่วไป ส่วนยานั้น ไม่เคยให้จริง ๆ และทางรพ.ชุมชนก็คงไม่มีเช่นกัน เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนแพทย์คนไหน พอแนะนำผู้เขียนได้ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือ เรียนรู้เรื่องเพศกับคุณหมอ ของศาสตราจารย์ พญ.สุวัทนาอารีพรรค 
ขอบคุณรูปภาพจาก http://haamor.com/media/images/articlepics/นกเขาไม่ขัน-f.jpg


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Denver II Part 1

I message VS U message

Sedation in Pediatrics