มาล้วงรกกับ Mr.Geawsa ดูซิจะ poison ขนาดไหน ( Manual removal of Placenta )

สวัสดี สวีดัดครับ 

บทความที่ตั้งใจจะเขียนวันนี้ สืบเนื่องมาจาก 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ผมกำลังตรวจคลินิก เบาหวาน-ความดัน อย่างตั้งใจนั้น ( แหง่หล่ะครับ แต่ละคนหูหนักสุด ๆ พูดตะโกนถามกับผู้ป่วยยิ่งกว่าตลาดนัดอีก เจ็บคอสุด ๆ ) ในเวลา 11.30 น. ใกล้เที่ยงและหิวมากกกก

พี่พยาบาล : หมอคะ ห้องคลอดโทรมาค่ะ 

ผม : ( ทำหน้างง เพราะไม่ได้อยู่เวรที่ต้องดูห้องคลอด และรับโทรศัพท์มา พร้อมกับพูดเสียงที่แหบพร่า กรอกใส่โทรศัพท์ ) ครับผม

พี่พยาบาลห้องคลอด : หมอคะ พอดีหมอA นามสมมติ ขอให้มาช่วยล้วงรกหน่อยค่ะ

ผม : ( เปลี่ยนมาทำสีหน้าฟินนาเล่ เพราะไม่ได้ทำหัตถการของสูติมาเป็นปีแล้ว เนื่องจากรพช.ที่ผมอยู่จะมีพี่หมอสูติดูอยู่ แต่วันนี้พี่ติดธุระ เลยเส็ดเรา 55 ) ครับ จะรีบไปเด๋วนี้ครับ 

.
.
.
.
.

ห้องคลอด 

หมอ A : แก ช่วยหน่อยซิ เราล้วงแล้วมันไม่ออกอ่ะ

ผม : ได้เลย ( หลังจากนั้นก็รีบใส่ถุงมือสั้นก่อนแล้วตามด้วยถุงมือยาว อย่างรวดเร็วก็คนมันตื่นเต้นอ่ะ อิอิ )


เมื่อเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งคนไข้เองอยู่ในท่า lithotomy ( หรือท่าขบนิ่ว ? ) อยู่แล้ว 

ผมก็ทำความสะอาดบริเวณขาหนีบของผู้ป่วย และ สวนปัสสาวะออกก่อน ( สำคัญนะครับ ไม่อย่างนั้นตอนล้วงรก กระเพาะปัสสาวะอาจจะขวางเราได้ )

ผมใช้มือซ้าย ที่ไม่ถนัดของผมจับสายสะดือที่ห้อยออกมาทางช่องตลอด  พร้อมกับใช้มือขวา คลำสายดือเป็นรูปกรวย ( Acousher hand ) คลำตามสายสะดือไป จนไปถึงรก ระหว่างนั้น

ผู้ป่วย : ( ดิ้นทุรนทุราย ร้องกรี้ดดดด ) หมอคะ เจ็บคะ โอ้ยยยย หมอทำเบา ๆ ซิคะ

ผม : คนไข้ใจเย็นนะครับ เราช่วยคุณอยู่นะครับ คลอดลูกเจ็บกว่ายังทนได้เลย

ผู้ป่วย : อ้ายยยยย หมอคะ ไม่เอาแล้ว พอแล้ว หมอฉีดยาชา หรือว่าดมยาสลบไม่ได้หรอคะ

ผม : ( เห้ยยย ฉันลืมฉีดยาสลบอ่ะ --!  เลยยิ้มแบบรู้สึกผิดกับผู้ป่วยแล้วพูดว่า ) หมอมือเบาที่สุดในโรงพยาบาลแล้วคุณแม่

ทันใดนั้นคุณแม่เริ่มเอาขาข้างขวาที่อยู่ในท่าขบนิ่ว? เดิม เกือบจะยกขึ้นมาวางบนบ่าผมนั้น

ผม : ได้แล้วครับคุณแม่ ( ตะโกนด้วยเสียงที่ตกใจ มือด้านขวาล้วงจนถึงรกด้านที่เริ่มลอกตัว พร้อมกับมือซ้ายปล่อยสายสะดือ มาจับมดลูกทางหน้าท้องไม่ให้เคลื่อน และใช้ศอกซ้ายมารับขาของผู้ป่วยได้ทันท่วงที )

ผู้ป่วย : โอ้ยยยยย อ้ายยยยยย จะไปรพ.ศูนย์ ไม่เอาแล้ว ๆ 

ผม : คุณแม่ เงียบ!!! ( น้ำเสียงเริ่มอำมหิตนิดนึง พร้อมกันนั้น ผมก็ใช้สันมือด้านนิ้วก้อย เซาะรกให้ลอกออกจากผนังหมดลูก 
ดังเคร้กกก ผมและคุณแม่หันมาสบตากัน )

ผู้ป่วย : ( หน้าตาโกรธ และกำลังอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง )
 
ผม : หยุด!! คุณแม่ รกคลอดแล้ว ( พร้อมกันกับที่มือขวาหยิบรกออกมาจากช่องคลอดอย่างสวยงาม อารมณ์อยากเปิดเพลง We are the champion ดัง ๆ )

ผู้ป่วย : ( สีหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ) คลอดแล้ววว 

ระหว่างนั้นมือซ้ายของผมเองก็ยังคงคลึงมดลูกอยู่ พร้อมกับพูดว่า

ผม : คุณแม่ครับ รกคลอดแล้วนะครับ เด๋วหมอจะใช้ผ้าก๊อซเช็ดทำความสะอาดมดลูกข้างในต่อนะครับ

ผู้ป่วย : ( เปลี่ยนจากยิ้ม กลายเป็นสีหน้าตื่นตระหนกอีกครั้ง ) ค่ะ

ผมจึงใช้ผ้าก๊อซพันที่นิ้วมือขวา พร้อมล้วงเข้าไปในโพรงมดลูกเช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือที่สุด คราวนี้ผู้ป่วยไม่ร้องมากครับ เลยเสร็จเร็วหน่อย พร้อมกันนั้นก็ให้พี่พยาบาลฉีดยาให้มดลูกหดตัว พร้อมกับเช็คดูบาดแผลในช่องคลอด 

หลังจากนั้นผมก็เดินออกมา สามีของผู้ป่วยก็เดินเข้ามาถามว่า "รกคลอดแล้วใช้ไหมหมอ" 

ผม : เรียบร้อยครับ ปลอดภัยดีครับ 

สามีผู้ป่วย : ขอบคุณครับ หมอ ขอบคุณครับ

ผมจึงเดินออกมาทานข้าวเที่ยงอย่างมีความสุข อารมณ์ฟิน เจริญอาหารมากเป็นพิเศษ จนหลายคนบริเวณนั้นสังเกตุได้ 555


ต่อมาพอเดินผ่านผู้ป่วยรายนี้ในวอร์ดหลังคลอด แล้วผู้ป่วยยิ้มให้เรา ทักทายเรา ทำให้เรารู้สึกดีเป็นบ้าเลย ^^

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าลืมฉีดยาสลบคนไข้ก่อนล้วงรกนะครับ เพราะมันเจ็บมาก 

ปล. ขอโทษคนไข้ด้วยนะครับ _/\_ 

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.elib-online.com/doctors46/lady_preg008.html





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Denver II Part 1

I message VS U message

Sedation in Pediatrics