Anaphylaxis ตอนที่ 2 ( for MD )
สวัสดีอีกครั้งนะครับ ครั้งนี้ ผมก็จะพูดต่อเนื่องจากครั้งก่อน เมื่อเราสามารถวินิจฉัยเรื่อง Anaphylaxis ได้แล้ว เรื่องการรักษาก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากอีกต่อไป ( จึงหรือเปล่าเนี่ย 555 )
อย่างที่เราทราบกันดี ถ้าร่างกายได้รับ allergen เข้าไป allergen ก็จะเข้่าไปจับกับ IgE บน mast cell แล้วทำให้มีการหลั่งสาร Histamine ออกมา ซึ่งก็จะมีผลทำให้ก็ภาวะ bronchospasm , vasodilatation , increase vascular permeability อาการที่ค่อนข้างน่ากลัวก็จะเป็นในกลุ่มหายใจหอบเหนื่อยได้ ความดันต่ำและ shock ได้
ซึ่งหลักการรักษาที่เป็น First line therapy เลยคือ
1. Airway maintainance
2. Oxygen
3. Epinephrine
4. Fluid resuscitation
เราจะเห็นได้เลยว่า first line จริง ยาเราให้แค่เพียง adrenaline เท่านั้น ส่วน CPM , Ranitidine , Dexamethasone ไม่ได้เป็นการรักษาที่สำคัญและจำเป็น ( ฝรั่งเค้าว่ามานะครับ ^^ ) เนื่องจากยาทั้ง 3 ตัว ช่วยป้องกันไม่ให้ Histamine ออกฤทธิ์ได้ หรือเพียงแค่ลดความรุนแรงของอาการลงเท่านั้น ส่วน adrenaline เป็นเพียงตัวเดียวที่ counteract กับ Histamine เท่านั้น
จากThe cochrane collaboration ที่ Review เรื่องของ H1-antihistamine for the treatment of anaphylaxis with and without shock ซึ่งโดยสรุปแล้ว ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าการให้ CPM จะช่วย emergency anaphylaxis ได้ ดังนั้นการรักษาสำคัญที่สุด คือ การให้ adrenaline ( CPM ผมไม่ได้หมายความว่าห้ามใช้ในการรักษา เพราะตัวผมเองก็เคยชินที่จะให้ เพียงแต่ที่ยกขึ้นมากล่าวนี้ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า การรักษาที่สำคัญที่สุดคืออะไร )
ส่วนเรื่องของ dose adrenaline นั้น เราให้ทาง IM เป็นหลักเพื่อความรวดเร็ว เนื่องจาก Peak ยาประมาณ 15 นาที ซึ่งค่อนข้างเร็ว และปลอดภัย โดยขนาดที่จะให้คือ ( 1:1000 ) ให้ 0.01ml im โดย max dose ของเด็กคือ 0.3 ml ส่วนของผู้ใหญ่คือ 0.5 ml ซึ่งเราสามารถ Repeat ได้ ทุก3-5 นาที ถ้ายังไม่ดีขึ้น
การให้ adrenaline drip iv อาจจะมีที่ใช้ ถ้าสมมติว่าฉีด im หลาย dose แล้ว ยังไม่ดีขึ้น แต่เราไม่นิยมให้ low dose adrenalin iv bolus เนื่องจากมีบางงานวิจัยที่บ่งบอกว่า การให้แบบนี้อาจทำให้เกิด acute myocardial infarction ได้
เอาเป็นว่า ถ้าคนไข้ยังอยู่ในภาวะ anaphylaxis หลังจากฉีด adrenaline 1 dose im แล้ว ฉีดซ้ำได้ครับ ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น