ผีอำ !!!!
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมมาอยู่พัทยา อิอิ อิจฉาใช่ไหมหล่ะ 555 ก่อนนอนวันนี้ ขอเขียนสักเรื่อง เอาแค่เรื่องสั้น ๆ นะครับ เพราะผมง่วงมาก 555 เพราะว่าก่อนนอน ดันเปิดเจอรายการคนอวดผี ซึ่งก็เป็นหนึ่งในรายการโปรดของผู้เขียนอยู่แล้ว (แปลกไหม ทั้งที่กลัวมาก แต่ก็ยังอยากดู 55)
ผมมักชอบฟังเรื่องผีนะ ชอบตอนคนอื่นเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แต่ส่วนใหญ่ที่พบกัน ก็จะเป็นอาการ"ผีอำ" ซึ่งด้วยความคิดออกแนววิทยาศาสตร์มากเกินไป ( ผมไม่ได้หลบหลู่นะ _/\_ ) คิดว่าปรากฎการณ์นี้ น่าจะพออธิบายได้นะครับ
อย่างที่เราเข้าใจกันดี การนอนหลับ จะมี 2 ระดับ คือ
1. NREM ( Non-Rapid eye movement ) เป็นช่วงแรกของการนอนหลับ ซึ่งก็จะมี 1-4 ตามระดับการหลับ เริ่มจากสะลึมสะลือ กล้ามเนื้อเริ่มผ่อนคลาย และเริ่มหลับลึกขึ้นเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ คือปลุกยากขึ้นเรื่อย ๆ
2. REM ( Rapid eye movement ) เป็นช่วงหลับตามหลัง NREM ซึ่งจะเป็นช่วงที่การทำงานของกล้ามเนื้อมัดใหญ่หยุดนิ่ง แต่ส่วนระบบอื่นกลับทำงานเพิ่มขึ้น เช่นมีการกลอกของลูก ชีพจรเต้นเร็ว ความดันที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งถ้าร่างกายเราตื่นอย่างกระทันหันในช่วง REM สมองเราตื่นจริงจริง แต่ร่างกายยังคงขยับไม่ได้ มนุษย์เราจึงเริ่มกลัว แล้วโยนความผิดไปให้กับสิ่งลี้ลับต่าง ๆ นานา แต่ไม่ต้องกลัว เพราะภาวะนี้ จะเป็นเพียงภาวะสั้น ๆ เท่านั้น ( ใช้เวลาพอ ๆ กับ การท่องนะโมสามจบพอดี อิอิ )
ทำไมร่างกายถึงมีภาวะแบบนี้ ก็เพราะว่า ช่วง REM คนทั่วไป มักจะมีความฝันเกิดขึ้น ซึ่งมักจะเป็นความฝันอันโลดโพน ดังนั้นการที่มี sleep paralysis ( ผีอำ) จึงเป็นกลไกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการนอนแล้วละเมอนั่นเอง
ปล. แต่ถ้ามาเป็นรูปรสกลิ่นเสียงด้วยแล้ว ตัวใครตัวมันนะครับ ผู้เขียนขอบาย ปรือ !!!
ผมมักชอบฟังเรื่องผีนะ ชอบตอนคนอื่นเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แต่ส่วนใหญ่ที่พบกัน ก็จะเป็นอาการ"ผีอำ" ซึ่งด้วยความคิดออกแนววิทยาศาสตร์มากเกินไป ( ผมไม่ได้หลบหลู่นะ _/\_ ) คิดว่าปรากฎการณ์นี้ น่าจะพออธิบายได้นะครับ
อย่างที่เราเข้าใจกันดี การนอนหลับ จะมี 2 ระดับ คือ
1. NREM ( Non-Rapid eye movement ) เป็นช่วงแรกของการนอนหลับ ซึ่งก็จะมี 1-4 ตามระดับการหลับ เริ่มจากสะลึมสะลือ กล้ามเนื้อเริ่มผ่อนคลาย และเริ่มหลับลึกขึ้นเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ คือปลุกยากขึ้นเรื่อย ๆ
2. REM ( Rapid eye movement ) เป็นช่วงหลับตามหลัง NREM ซึ่งจะเป็นช่วงที่การทำงานของกล้ามเนื้อมัดใหญ่หยุดนิ่ง แต่ส่วนระบบอื่นกลับทำงานเพิ่มขึ้น เช่นมีการกลอกของลูก ชีพจรเต้นเร็ว ความดันที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งถ้าร่างกายเราตื่นอย่างกระทันหันในช่วง REM สมองเราตื่นจริงจริง แต่ร่างกายยังคงขยับไม่ได้ มนุษย์เราจึงเริ่มกลัว แล้วโยนความผิดไปให้กับสิ่งลี้ลับต่าง ๆ นานา แต่ไม่ต้องกลัว เพราะภาวะนี้ จะเป็นเพียงภาวะสั้น ๆ เท่านั้น ( ใช้เวลาพอ ๆ กับ การท่องนะโมสามจบพอดี อิอิ )
ทำไมร่างกายถึงมีภาวะแบบนี้ ก็เพราะว่า ช่วง REM คนทั่วไป มักจะมีความฝันเกิดขึ้น ซึ่งมักจะเป็นความฝันอันโลดโพน ดังนั้นการที่มี sleep paralysis ( ผีอำ) จึงเป็นกลไกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการนอนแล้วละเมอนั่นเอง
ปล. แต่ถ้ามาเป็นรูปรสกลิ่นเสียงด้วยแล้ว ตัวใครตัวมันนะครับ ผู้เขียนขอบาย ปรือ !!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น